<div class="text-justify">สำหรับคนที่ผ่านมาเห็นโพสน์นี้ แล้วเป็นคนในรุ่นหนุ่มสาวอายุไม่ถึง 40 ปี อาจจะรู้สึกเฉยเพราะอาจจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะเรื่องที่กำลังจะพูดเป็นเรื่องของความแก่และการเก็บออม บางคนในขณะนี้อาจจะมีงานทำหรือมีรายได้ประจำที่มีเงินเข้าบัญชีในทุกเดือน หรือคนที่ทำอาชีพอิสระอาจจะที่มีรายเข้ามาสามารถทำรายได้อยู่ก็อาจจะรู้สึกเฉย </div></center> <br></br>
<div><center><p>https://cdn.steemitimages.com/DQmfJx5TWfe9WwUAmRXXBPRaZk8EbdNBLhHokKs6y4FfZCa/damir-spanic-vwaTtIhCjVg-unsplash.jpg</center></div></p> 
<center>Photo by <a href="https://unsplash.com/@spanic?utm_source=unsplash&amp;utm_medium=referral&amp;utm_content=creditCopyText">Damir Spanic</a> on <a href="https://unsplash.com/s/photos/saving?utm_source=unsplash&amp;utm_medium=referral&amp;utm_content=creditCopyText">Unsplash</a></center><br></br>
<div class="text-justify">แต่บอกเลยสำหรับคนที่อายุยังน้อยคุณได้เปรียบในทุกๆ เรื่องเพราะว่าช่วงเวลาที่เหลือของชีวิตหรืออายุในการทำงานที่สามารถทำเงินได้จะมีระยะยาวมากกว่า ในช่วงสมัยที่เราอายุยังน้อย ข้อมูลที่เผยแพร่กันในเรื่องลักษณะแบบนี้ไม่มีให้ได้เห็น แต่ในปัจจุบันมีคนหรือองค์กรต่างๆ มากมายออกมาให้ข้อมูล กระตุ้น ปลุกใจให้ทุกคนหันมาเก็บออม แต่เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะเราเองในช่วงที่อายุยังน้อยก็จะเจอผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักเก็บเงิน แต่ก็อย่างว่าคำพูดเหล่านี้แบบได้ยินก็ผ่านไป</div></center> <br></br>
<div class="text-justify">บางคนก็อาจจะคิดว่าเงินไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต อันนี้ไม่ขอเถียง แต่เงินเป็นปัจจัยที่จะทำให้คุณได้ว่าสิ่งปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต บางคนบอกว่ามีหน้าที่การดี ทำงานได้เงินเยอะๆ ชีวิตก็ไม่มีความเสี่ยงแล้ว อันนี้บอกเลยว่าไม่จริง ความเสี่ยงในชีวิตคุณส่วนหนึ่งจะหายไปถ้าคุณมีเงินออมหรือเงินเก็บสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ไม่ว่าเกิดโรคระบาดโควิด-19 ระลอก 2 คุณก็จะสามารถใช้ชีวิตแบบไม่ต้องเสี่ยงแม้ว่ารายได้ในแต่ละเดือนของคุณจะหายไป คุณก็จะสามารถมีเงินที่จะดำรงชีวิตและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ตามจำนวนเงินที่คุณออมหรือเก็บไว้ บางคนอาจจะออมไว้เท่ากับจำนวนค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 1 - 3 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะออมเงินสำรองฉุกเฉินไว้ประมาณนี้ แต่ต้องบอกว่าให้คิดใหม่อีกครั้ง</div></center> <br></br> 
<div class="text-justify">เพราะเงินออม 3 เดือนที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอาจจะไม่เพียงพอ ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ในปัจจุบันที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 คนทำงานอาจจะต้องถูกลดเงินเดือน ค้าขายอาจจะขายได้น้อยลง ตอนนี้สถานการณ์นี้ก็เกิน 3 เดือนแล้ว น่าจะเข้าเดือนที่ 4 – 5 สำหรับเราคิดว่าจำนวนเงินออมไว้ใช้ยามฉุกเฉินมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี สำหรับเราเองเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินไว้ให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ไว้จำนวน 2 ปี เพราะตั้งโจทย์ไว้ว่าถ้าไม่สามารถทำอะไรได้เลยต้องนอนโรงพยาบาล ซึ่งค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่จะครอบคลุมนี้ เรารวมทั้งค่าประกันสุขภาพ เงินสดฉุกเฉิน และเงินที่ต้องออมหรือเก็บเพิ่มในแต่ละเดือนเข้าไปด้วย</div></center> <br></br> 
<div class="text-justify">ส่วนที่คนที่บอกว่าเงินแต่ละเดือนยังไม่พอใช้เลยแล้วจะเอาที่ไหนมาเก็บ บอกเลยว่าถ้าคุณคิดแบบนี้ต่อให้คุณมีรายได้มากมายคุณก็ไม่สามารถจะมีเงินออมได้ ง่ายๆ เลยเปลี่ยนเงินออมสำรองฉุกเฉินของคุณให้เป็นค่าใช้จ่ายที่หักเก็บไว้ก่อนเลย เพราะฉะนั้นคุณก็จะมีเงินออมไม่ว่าจะมีรายได้เท่าไหร่ อาจจะรับจ้างรายวันวันละ 300 บาทหักเก็บเลย 10 บาทเดือนหนึ่งคุณก็มีเงินเก็บ 300 บาท ใน 1 ปี 3600 บาท ถ้าบอกว่าน้อยคุณก็เพิ่มเงินออมให้มากขึ้น แต่ที่สำคัญต้องมีการออมอย่างสม่ำเสมอ บอกเลยว่าถ้าคุณไม่เคยมีเงินออมสำรองฉุกเฉิน แล้วสามารถทำได้อาจจะมีเงินออมแค่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเพียงเดือนเดียว แต่บอกเลยว่าถ้าคุณไปถึงจุดเริ่มต้นตรงนั้น ชีวิตคุณจะเริ่มความมั่นคงในชีวิตมากยิ่งขึ้น พลังและสติในตัวคุณที่คิดทำเรื่องอื่นก็จะมีมากขึ้น ไม่ต้องมากังวลเรื่องของเงิน </div></center> <br></br>
<center><strong>Steem:</strong> <a href="http://www.steemit.com/@andyjim" rel="nofollow">www.steemit.com/@andyjim</a></center>
<br></br>		
<hr />